Netflix ระส่ำ! ผลสำรวจพบชาวอเมริกัน 25% มีแผนยกเลิกใช้บริการภายในปี 2022

            Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรีส์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อาจกำลังเผชิญคลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังผลสำรวจพบว่า มีชาวอเมริกันถึง 25% ระบุว่า มีแผนจะยกเลิกการใช้บริการภายในปี 2022 โดยสาเหตุหลักก็มาจากมีบริการสตรีมมิ่งคู่แข่งผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดในช่วง 1 – 2 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสตรีมมิ่งน้องใหม่มาแรงอย่าง Disney+ ที่เปิดตัวมาไม่ทันไรก็มียอดลูกค้ารวมแซงหน้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Netflix เสียลูกค้าไปถึง 1.2 ล้านบัญชี ในช่วงไตรมาส 1 – 2 ของปี 2022

            Reviews.org ออกมาเปิดเผยผลสำรวจชาวอเมริกัน 1,000 คน พบว่า มีผู้ใช้งาน Netflix ถึง 25% ที่ระบุว่ามีแผนจะยกเลิกการใช้บริการภายในปี 2022 โดยชาวอเมริกันที่ทำแบบสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่า บริษัทที่มีคอนเทนต์ที่พวกเขาสนใจ แถมยังมีอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง และมีแนวโน้วว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้พวกเขาเริ่มหันไปสมัครใช้บริการสตรีมมิ่งคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่มีคอนเทนต์ตอบโจทย์ของพวกเขามากกว่าแทน

            ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจยังพบว่า ในปี 2022 ชาวอเมริกันสมัครใช้บริการสตรีมมิ่งเฉลี่ย 4 ค่ายต่อคน ซึ่งชาวอเมริกัน 78% ที่ตอบแบบสำรวจเป็นผู้เคยใช้บริการ Netflix แต่มีเพียง 70% ที่ยังคงใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน นั่นหมายความว่า สัดส่วนผู้ใช้บริการหายไปถึง 8% สอดคล้องกับยอดผู้ใช้งานช่วงไตรมาส 1 – 2 ของปี 2022 ที่บริษัทเสียลูกค้าไปรวมกันถึง 1.2 ล้านบัญชี และหากนับเฉพาะไตรมาสแรกก็เสียไปถึง 970,000 บัญชีเลยทีเดียว

            แน่นอนว่า ผลสำรวจข้างต้นย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับ Netflix เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งจะโดนคู่แข่งอย่าง Disney+ ที่เพิ่งจะเปิดบริการสตรีมมิ่งมาได้ไม่นาน แต่ปัจจุบันกลับมียอดลูกค้ามากถึง 221.1 ล้านบัญซี แซงหน้าพวกเขาที่เคยเป็นเจ้าตลาดสตรีมมิ่ง แต่กลับมียอดลูกค้าเพียง 220.67 ล้านบัญชีเท่านั้น งานนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของค่ายสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่นี้จะเลวร้ายลงมากกว่านี้หรือไม่ เพราะนับวันค่ายคู่แข่งอย่าง Disney+ หรือ HBO ต่างก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ  

ติดตามข้อมูล  ข่าววงการไอที ที่มาพร้อมข้อมูลดี ๆ สำหรับคุณ